บ้านพระยาวิชิตสงคราม
บ้านพระยาวิชิตสงคราม
กดเพื่อขยายขนาด
ดาวน์โหลด:  
   
<b>Notice</b>: Undefined variable: j in <b>/var/www/vhosts/srisunthon.go.th/old.srisunthon.go.th/catalog/view/theme/default/template/content/content.tpl</b> on line <b>103</b><b>Notice</b>: Undefined index:  in <b>/var/www/vhosts/srisunthon.go.th/old.srisunthon.go.th/catalog/view/theme/default/template/content/content.tpl</b> on line <b>103</b>  

โบราณสถานบ้านพระยาวิชิตสงครามสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2419 ผู้สร้างคือพระยาวิชิตสงคราม(ทัต) ต้นตระกูล รัตนติลก ณ ภูเก็ต เนื่องจากพวกกุลีจีนทำเหมืองแร่ได้ก่อความวุ่นวายขึ้นบ้านกะทู้มีการปะทะกันระหว่างพวกกุลีต่างก๊ก เพราะเรื่องผลประโยชน์เหมืองแร่และทางการได้เข้าปราบปราม จนในที่สุดได้เลิกราไป จึงได้สร้างบ้านใหม่ที่บริเวณบ้านท่าเรือ โดยเข้ามาอยู่เมื่อ พ.ศ.2420 และใช้บ้านหลังนี้เป็นที่ทำการตลอดจนว่าความคดีต่างๆ อีกด้วย อาจกล่าวได้ว่า ท่านเป็นผู้มีความสามารถในการจัดการทรัพยากรบุคคลคือกลุ่มชาวจีนที่เขามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารบุรพมหากษัตริย์ไทย จนสามารถนำทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า คือ ดีบุก มาสร้างความมั่งคั่งในกับแผ่นดินถือเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยดูแลผลประโยชน์ของแผ่นดินมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3

กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่102 ตอนที่128 ลงวันที่ 17 กันยายน 2528 พื้นที่ 23ไร่ 1 งาน 14 ตารางวา

ที่ตั้ง
บ้านท่าเรือ ถนนเทพกระษัตรี ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตห่างจากตัวเมืองประมาณ 12 กิโลเมตร
การเดินทาง
ออกจากตัวเมืองไปตามถนนเทพกระษัตรีหรือทางหลวงหมายเลข 402 ประมาณ 12 กิโลเมตร บ้านพระยาวิชิตสงครามตั้งอยู่ทางขวามือ ใกล้กับศาลเจ้าท่าเรือ เลี้ยวเข้าไปในซอยหัวท่าประมาณ 50 เมตร และเลี้ยวซ้ายอีกครั้งหนึ่งเพื่อเข้าสู่บริเวณบ้านพระยาวิชิตสงคราม

ประวัติท่านพระยาวิชิตสงคราม

พระยาวิชิตสงคราม หรือ พระยาภูเก็ตโลหเกษตรารักษ์ ( ทัด ) เป็นเจ้าเมือง ภูเก็ต เมื่อปี พ . ศ . 2393 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 4 สืบเชื้อสายมาจากพระยาถลาง ( เจิม ) ซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่ และเป็นบุตรชายของพระภูเก็ต ( แก้ว ) เมื่อพระยาวิชิตสงครามเป็นเจ้าเมืองภูเก็ตสืบต่อจากบิดา ได้ย้ายเมืองมาอยู่ที่ ตำบลทุ่งคา ( อยู่ทางตอนใต้ของเกาะภูเก็ต ) เนื่องจากบริเวณนี้เป็นแหล่งแร่ดีบุกที่อุดม สมบูรณ์ ต่อมาเมืองภูเก็ตเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าเมืองถลาง จึงได้รับการ ยกฐานะเป็นหัวเมืองขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ เมื่อปี พ . ศ . 2405 พระยาวิชิตสงครามได้ชักชวนพ่อค้าชาวจีนมาลงทุนทำกิจการค้าและเหมืองแร่ ในภูเก็ต ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจของเมืองภูเก็ตเจริญมั่งคั่งกว่าหัวเมืองอื่น ๆ ในแถบนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดเหตุจลาจลวุ่นวายหลายครั้ง เนื่องจากการทะเลาะวิวาท ของกรรมกรเหมืองแร่ชาวจีน หรือพวกอั้งยี่ เพื่อแย่งชิงแหล่งแร่ดีบุกและสายน้ำล้างแร่ พระยาวิชิตสงครามจึงย้ายบ้านและศาลาว่าการไปอยู่ที่บ้านท่าเรือในที่ดินของพระยาถลาง ( เจิม ) โดยสร้างกำแพงและป้อมปราการป้องกันอย่างแข็งแรง พระยาวิชิตสงครามได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าภาษีอากรรับผูกขาดผลประโยชน์ ในเมืองภูเก็ตทั้งหมด ต้องแข่งขันประมูลภาษีในอัตราที่สูงมากด้วยคาหมายว่าจะสามารถ จัดเก็บภาษีมาส่งให้รัฐบาลได้ทันตามกำหนด แต่ต่อมาไม่นานราคาดีบุกในตลาดโลกตกต่ำ ในปี พ . ศ . 2425 พระยาภูเก็ต ( ลำดวน ) ซึ่งเป็นลูกชายไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ทันจึงต้อง คืนการจัดเก็บภาษีให้กับรัฐบาล รัฐบาลจึงแต่งตั้งให้พระยาภูเก็ต ( ลำดวน ) เป็นเจ้าพนักงาน จัดเก็บภาษี แต่เนื่องจากได้ติดค้างเงินภาษีไว้จำนวนมาก จึงถูกปลดออกจากตำแหน่ง และส่งตัวไปเร่งรัดภาษีที่กรุงเทพฯ และถูกริบบ้านเรือนและทรัพย์สินต่าง ๆ ในที่สุด

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความคิดเห็น
1. โปรดงดเว้น การใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
2. ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้
3. ทีมงานเว็บมาสเตอร์ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใด ต่อเจ้าของความคิดเห็น
เพื่อให้การแสดงความคิดเห็นเป็นไปตามกฎกติกาที่วางไว้ ทางผู้ดำเนินการเว็บไซต์ได้ปรับปรุงระบบการกรองคำให้เข้มงวดยิ่งขึ้น
กรุณารอสักครู่ ก่อนที่ความคิดเห็นของท่านจะถูกนำขึ้นแสดง
เขียนความคิดเห็น
ชื่อ:


ความคิดเห็น: คำแนะนำ: HTML จะไม่ถูกแปลง!

ความนิยม: แย่            ดี

ป้อนรหัสในกล่องข้างล่างนี้:

บ้านพระยาวิชิตสงคราม
กดเพื่อขยายขนาด
บ้านพระยาวิชิตสงคราม
กดเพื่อขยายขนาด
บ้านพระยาวิชิตสงคราม
กดเพื่อขยายขนาด
บ้านพระยาวิชิตสงคราม
กดเพื่อขยายขนาด
บ้านพระยาวิชิตสงคราม
กดเพื่อขยายขนาด